สิ่งก่อสร้างตกใส่! ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่?

17 กรกฎาคม ค.ศ. 2023 โดย
/

สิ่งก่อสร้างในที่สาธารณะตกใส่! ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่?

การขับรถบนท้องถนนนอกเหนือจากความระมัดระวังที่ต้องมีต่อผู้ร่วมเส้นทางที่ใช้รถใช้ถนนแล้ว อาจมีเรื่องความ ‘ไม่ปลอดภัย’ เหนือความคาดหมายอยู่ในการขับขี่ด้วย อย่างในปัจจุบันที่เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุบ่อยๆ จากสิ่งก่อสร้างในที่สาธารณะไม่ว่าจะเป็นที่พื้นผิวถนน หลุ่ม บ่อ คลื่นบนถนนที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และยังมีเรื่องการก่อสร้าง การปรับปรุง สะพาน ทางยกระดับ รางรถไฟฟ้า ฯลฯ ที่อยู่เหนือศีรษะของผู้ขับขี่ และอยู่นอกระยะมองเห็นโดยทั่วไป ทำให้การระมัดระวังล่วงหน้าดูจะเป็นเรื่องที่ยากทีเดียว สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดที่คานสะพานลอยกลับรถถล่ม ถนนพระราม 2 และที่ลาดกระบัง นินนินขอแสดงความเสียใจไปยังผู้ประสบภัยและครอบครัวมาในโอกาสนี้ครับ
สำหรับเหตุการณ์ ‘สิ่งก่อสร้างในที่สาธารณะถล่ม หรือตกใส่รถยนต์’ อาจมีคำถามตามมาว่าต้องดำเนินการอย่างไร หรือประกันรถยนต์คุ้มครองรถหรือไม่ ‘น้องนินนิน’ มีคำตอบครับ
1. ตั้งสติ : เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ตรวจสอบในทันทีว่าผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บเช็คอาการเบื้องต้นว่าสามารถขยับร่างกายได้หรือไม่ หากเคลื่อนไหวได้ควรเคลื่อนย้ายไปอยู่บริเวณที่ปลอดภัย เพราะเป็นไปได้ว่าอาจมีการร่วงหล่นเพิ่มเติม หรือตัวรถที่ได้รับความเสียหายอาจเกิดการรั่วไหลของเชื้อเพลิง เกิดประกายไฟ เกิดการระเบิดได้ แต่หากบาดเจ็บหนัก หรือไม่สามารถเคลื่อนได้ด้วยตนเอง โทรแจ้งหน่วยกู้ภัยหรือโรงพยาบาล เช่น หน่วยแพทย์กู้ชีวิต วชิรพยาบาล โทร. 1554, ศูนย์ร้องทุกข์กรุงเทพมหานคร โทร. 1555, ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร โทร. 1646, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โทร. 1669
2. โทรแจ้งตำรวจ : โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทร.191 และให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ ชื่อผู้ประสบภัย สถานที่เกิดเหตุ และหมายเลขสำหรับติดต่อกลับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลงบันทึกประจำวันหรือแจ้งความไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ และเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าเยียวยาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
3. โทรแจ้งบริษัทประกันภัย : ควรพกข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัย หรือ พ.ร.บ. ติดรถหรือไว้ที่ลิ้นชักรถ เพื่อสะดวกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และสามารถโทรแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ทันท่วงที โดยโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นว่าอยู่ในความคุ้มครองตามเงื่อนไขประกันภัยหรือไม่ หากอยู่ในเงื่อนไข เจ้าหน้าที่จะมาตรวจสอบความเสียหาย ณ ที่เกิดเหตุ และจัดทำเอกสารด้านการประกันภัยให้แก่ท่าน รวมถึงการมีส่วนประสานงานระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่ดูแล และตัวบริษัทประกันภัยเอง เพื่อเยียวยาผู้ประสบภัยครับ เช่น ในกรณีคานสะพานลอยกลับรถถล่ม ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกรมทางหลวง ผู้ประสบภัยก็พึงได้รับการดูแลจากกรมฯ ด้วย

สิ่งของตกใส่รถ

ส่วนประเด็น ‘ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่?’ สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 มีการคุ้มครองกรณีนี้ครับ ด้านความเสียหายต่อตัวรถ หากบริษัทประกันมีการประเมินว่ารถมีความเสียหายรุนแรง ไม่สามารถซ่อมให้อยู่ในสภาพเดิมได้ หรือเสียหายตั้งแต่ร้อยละ 70 ของมูลค่ารถในขณะเกิดความเสียหาย บริษัทประกันจะจ่ายเงินให้แก่ผู้เอาประกันเต็มทุนประกันตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ท่านสามารถตรวจสอบและปรึกษากับเจ้าหน้าที่บริษัทประกันเพิ่มเติมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อประเมินความเสียหายและการชดเชย แต่ประกันภัยประเภทอื่นๆ (ที่ไม่ใช่ชั้น 1 ) โดยมากไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถ-ชดเชยความเสียหายจากกรณีที่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุจากรถยนต์ชนกับยานพาหนะทางบก นอกจากนั้นบริษัทประกันภัยอาจเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผู้ดูแลทรัพย์สินนั้นๆ เพื่อชดเชยความเสียหายดังกล่าวด้วย

สิ่งของตกใส่รถ


ส่วนเรื่องความเสียหายต่อบุคคล กรณี เสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือค่ารักษาพยาบาลจากเหตุที่เกิดขึ้น จะได้รับความคุ้มครองจากประกันทุกประเภทตามทุนประกันภัยของท่าน และยังมีความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.อีกด้วย 
หากรถที่ไม่ได้มีทำประกันรถยนต์เอาไว้ อย่าลืมตรวจสอบความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. ทั้งค่าเสียหายเบื้องต้น และค่าสินไหมทดแทนที่พึงจะได้รับ โดยต้องมีการเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อยื่นเรื่องในภายหลัง เช่น ใบเสร็จรับเงินจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล หรือหลักฐานการแจ้งหนี้เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ในกรณีบาดเจ็บ, ใบรับรองแพทย์ หรือความเห็นแพทย์ หรือหลักฐานอื่นใดที่ระบุว่าเป็นผู้ประสบภัยซึ่งทุพพลภาพ ในกรณีทุพพลภาพ, สำเนามรณบัตร (กรณีมีผู้เสียชีวิต), สำเนาบันทึกประจำวันของพนักงานสอบสวน หรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าผู้นั้นได้รับความเสียหายจากการประสบภัยจากรถเพิ่มเติมด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ท่านน่าจะเห็นว่าการต่อ พ.ร.บ. ให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมไปถึงการทำประกันรถยนต์เป็นเรื่องที่สำคัญทีเดียวในยามที่เกิดเหตุไม่คาดคิด อย่าลืมต่อประกันรถยนต์อยู่เสมอ หรือหากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องความคุ้มครองหรือเงื่อนไขการทำประกันภัย 

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยรถยนต์ของ TT Insurance Broker ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ช่องทางการติดต่อที่สะดวก
Facebook page: TT Insurance Broker
Line official @TTIB
www.ttib.co.th
หมายเลขโทรศัพท์ 02-248-4848 วันจันทร์-ศุกร์ เวลาทำการ 09.00-17.30 น.

*การทำประกันภัยเป็นไปตามเงื่อนไข และความคุ้มครองของบริษัทประกัน*

ที่มา :
www.doh.go.th/content/page/news/203597
www.oic.or.th

แชร์โพสต์นี้


Added to cart