ที่นินนินนำมาเสนอวันนี้ก็เพราะว่าเจ้าฟีเจอร์ตัวนี้เตรียมที่จะอัปเดตในประเทศไทยแล้วครับ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร แม่นยำแค่ไหน Google ก็ได้อธิบายถึงหลักการทำงานของ AI และป้ายสัญลักษณ์จำกัดความเร็วที่ทางแอพจะอัปเดตไว้เรียบร้อยแล้วครับ
การจัดทำแผนที่ใน Google Map นั้นมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือหลาย ๆ แหล่ง หนึ่งในแหล่งข้อมูลที่สำคัญที่สุดมาจากข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือของหน่วยงานรัฐของแต่ละท้องที่ว่ามีความเร็วพื้นฐานในการขับขี่บนถนนอย่างไรบ้าง เช่น ในแคลิฟอเนีย มีการจำกัดความเร็วปกติ 25 ไมล์ต่อชั่วโมงเมื่ออยู่ในบริเวณแหล่งชุมชนย่านที่พักอาศัยของผู้คน ซึ่งข้อมูลพื้นฐานบางอย่างอาจไม่มีป้ายแจ้งเตือนการจำกัดความเร็วบอกไว้ (เพราะใคร ๆ ในท้องที่ก็ต่างรู้กันดีอยู่แล้ว) นอกจากนั้นยังมีถนนอีกมากมายในหลายประเทศที่มีการจำกัดความเร็วช่วงเวลาที่แตกต่างกันหรือสภาพอากาศที่แตกต่างกัน เทคโนโลยีที่กูเกิ้ลนำมาใช้นั้นมาจากการใช้ภาพและ AI ช่วยทำงาน
AI ถูกออกแบบมาให้ตรวจจับสัญลักษณ์การตรวจจับความเร็วจากแหล่งข้อมูล Street view และภาพจากพาร์ทเนอร์ของ Google เจ้าอื่น ๆ โดย AI ถูกฝึกให้เรียนรู้ป้ายสัญลักษณ์มากกว่าร้อย ๆ แบบจากทั่วโลก แม้ว่ามันจะมีหน้าตาแตกต่างกันออกไปเจ้า AI ก็ยังตรวจพบป้ายจำกัดความเร็วได้ ตัวอย่างเช่น ป้ายสัญลักษณ์ในอเมริกาจะมีเขียนคำว่า “speed limit” ระบุในป้าย ในขณะที่เยอรมันอาจมีบอกแค่ตัวเลขความเร็วที่ต้องการจำกัดเอาไว้เฉย ๆ
เมื่อ AI ระบุป้ายเบื้องต้น Google จะใช้ข้อมูล GPS จากภาพเพื่อจับคู่กับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ชัดเจนเพื่อให้รู้อย่างแม่นยำว่าเมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนขีดจำกัดความเร็วที่แสดงบน Google Maps ตามตำแหน่งที่คนขับกำลังอยู่บนเส้นทาง ทาง Google เองยังมองข้อมูลเส้นทางพวกนี้ว่าสามารถต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการพัฒนาเรื่องผู้ช่วยการขับขี่ เช่น เรื่องรถยนต์ไร้คนขับที่เชื่อว่าเราพอจะเห็นกันบ้างแล้วเกี่ยวกับการทดสอบเทคโนโยลีเหล่านี้ หาก AI สามารถจับสัญญาณได้แม่นยำสูง ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎหมายจราจรยิ่งเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์เทคโนโลยียานยนต์ใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ให้สามารถขับรถได้อย่างมั่นใจไม่ว่าจะเป็นถนนเส้นไหน ๆ บนโลก