แนะวิธีขับขี่ปลอดภัย ‘ไร้ฝ้ารถยนต์’

          ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ผู้ใช้รถใช้ถนนอาจต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่อีกเท่าตัว ทั้งถนนที่มีน้ำท่วมขังหรือพื้นผิวลื่น รวมไปถึงทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ลดลงขณะที่ฝนตก ‘รอบรู้เรื่องรถ’ วันนี้ทาง TTIB จึงขอนำทริคการแก้ปัญหาด้านทัศนวิสัยจาก ‘ฝ้า’ หนึ่งตัวการที่เป็นอุปสรรคขณะขับขี่ในช่วงฤดูฝน รวมไปถึงฤดูหนาว (ช่วงปลายปี-ต้นปีของบ้านเรา) ด้วยเลยครับ บางท่านที่เป็นมือใหม่หัดขับก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะกระจกรถเป็นฝ้ามีวิธีแก้ง่าย ๆ สามารถรับมือกับสถานการณ์ฝ้าบุกได้ทันที ทำให้การขับขี่ปลอดภัยไร้ฝ้ามาบดบังกระจก

          ก่อนอื่นใด อยากให้ทุกท่านทราบก่อนนะครับว่าทำไมกันนะ รถยนต์ของเราถึงได้ขึ้นฝ้า ทั้งฝ้าที่ขึ้นกระจกในรถ และฝ้าที่ขึ้นกระจกรถด้านนอกรถ สาเหตุที่เกิดฝ้าโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนหรือว่าหน้าหนาวนั้นก็เพราะว่าอุณหภูมิภายในตัวรถและภายนอกตัวรถไม่เท่ากัน โดยด้านไหนที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจะเกิดฝ้าบริเวณกระจกของด้านนั้น ๆ เช่น ฝ้าขึ้นบริเวณกระจกด้านนอกตัวรถ เพราะว่าอุณหภูมิหรืออากาศภายนอกสูงกว่า (ภายในตัวรถเย็นกว่า) หรือเกิดฝ้ากระจกรถด้านในก็เพราะว่าอากาศภายนอกตัวรถเย็นกว่าในห้องโดยสารครับ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดด้านไหนส่งผลให้เรามองเห็นระหว่างขับขี่ได้น้อยลงและมีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น จึงจำเป็นต้องไล่ให้กระจกไร้ฝ้ารถยนต์ขณะขับขี่ แล้วจะไล่อย่างไรตามไปดูกัน

1. ปรับอุณหภูมิแอร์ เพราะว่าฝ้าเกี่ยวข้องกับอุณหภูมิ หากเกิดฝ้าภายนอกตัวรถ ให้ลองเบาแอร์ หรือพัดลมลง หรือหากเกิดฝ้าในตัวรถให้ปรับแอร์หรือพัดลมให้เย็นขึ้นดูก่อนเป็นอย่างแรกก็ได้ครับ นอกจากนั้นยังมีทริคให้ปรับช่องลมแอร์ไม่ให้หันไปจ่อกระทบกับกระจกครับ เพื่อไม่ให้เกิดไอฝ้าบริเวณกระจกภายนอกตัวรถ

2. ใช้ปุ่มไล่ฝ้า ที่บริเวณแผงควบคุมจะมีปุ่มไล่ฝ้าทั้งสำหรับกระจกด้านหน้าและด้านหลังอยู่ กรณีที่เกิดไอฝ้า สามารถใช้ฟังก์ชั่นที่มาพร้อมกันกับตัวรถให้เป็นประโยชน์ได้เลย มองหาปุ่มที่มีสัญลักษณ์สี่เหลี่ยม หรือสี่เหลี่ยมคางหมู และมีหยักสายลม จะมีระบุ front (ปุ่มไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า) และ rear (ปุ่มไล่ฝ้ากระจกหลัง) กดปุ่มประมาณ 5-10 นาที กรณีกระจกหน้า ระบบจะดึงอากาศภายนอกเข้ามาในรถ และเป่าไปยังกระจกบังลมหน้าปรับอุณหภูมิบริเวณกระจก เพื่อลดความชื้น ไอน้ำ หรือฝ้า ส่วนกระจกหลังจะทำงานด้วยการใช้ความร้อนจากขดลวด (เส้นขีด ๆ บริเวณกระจกหลัง) ที่ฝังอยู่ในกระจกเพื่อไล่ฝ้าออก 

รู้หรือไม่ หลังจากใช้งาน ไม่เกิน 30 นาที ควรปิดการใช้งานปุ่มไล่ฝ้าทันที เพราะว่า ระบบไล่ฝ้าแบบ front จะดึงอากาศพร้อมฝุ่น ควัน ไอเสีย เข้ามาในห้องโดยสารมากกว่าปกติ ส่วนการไล่ฝ้าที่กระจกหลัง ความร้อนของลวดไฟฟ้าอาจทำให้ฟิล์มกรองแสงเสื่อมเร็วขึ้น หรือความร้อนอาจทำให้กระจกร้าวได้ 

​

3. ลดกระจก หากไม่ได้อยู่ระหว่างฝนตก หรือฝนไม่ได้ตกหนักมาก การลดกระจกสักครู่หนึ่งช่วยไล่ฝ้ากระจกได้เป็นอย่างดี เพราะว่าช่วยดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาในห้องโดยสารทำให้อุณหภูมิภายในและภายนอกมีความใกล้เคียงกัน และช่วยบรรเทาไอฝ้ากระจกให้หายไปได้

4. ใช้ผ้ากันฝ้า หรือน้ำยากันฝ้าทำความสะอาดกระจก เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการดูแล หรือเช็ดทำความสะอาดกระจกเป็นชนิดป้องกันไอฝ้า และรวมไปถึงผ้าเช็ดเลนส์แว่นตาก็ช่วยแก้ฝ้าได้ด้วยนะครับ สารจะช่วยให้เคลือบกระจกจนไม่เกิดฝ้า หรือไอน้ำได้

5. ใช้ที่ปัดน้ำฝน หรือจอดรถเช็ดฝ้า เปิดที่ปัดน้ำฝนให้ปัดฝ้านอกรถก็ช่วยบรรเทาให้ฝ้าบางลงและมองเห็นได้ชัดขึ้น แต่หากพบว่าทัศนวิสัยโดยรวมไม่ดี มองไม่เห็นระยะระหว่างรถคันหน้า หรือมองกระจกหลังไม่ได้ ควรนำรถจอดข้างทาง หรือแวะที่จุดพักรถก่อนชั่วขณะ หรือจอดและเช็คกระจกก่อนที่จะขับขี่ต่อไปเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้

          เพราะว่าการเกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ หากมีปัจจัยเสี่ยงที่ยากจะควบคุมเพิ่มเข้ามาอีกก็ยิ่งทำให้ผู้ขับขี่และรถคันเก่งยิ่งเสี่ยงต่ออันตรายบนท้องถนน จึงจำเป็นต้องเช็คความพร้อมและประเมินสถานการณ์ก่อน ระหว่าง และหลังขับขี่อยู่เสมอครับ เพิ่มความอุ่นใจในทุกเส้นทางเมื่อมีประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 3+, ชั้น 2 และ 3 ก็มีให้บริการพร้อมสิทธิพิเศษที่ ทีที อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ ติดต่อแอดมินได้ที่ Facebook page: TT Insurance Broker, Line official @TTIB หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 02-248-4848 วันจันทร์-ศุกร์ในเวลาทำการ 08.30-17.00 น.