จิ้มให้แล้ว! แนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยวในเอเชียต้นปี 2023
หากกำลังมองหาทริปใหม่ ๆ ว่าต้นปี 2023 นี้จะไปเที่ยวที่ไหนดี? ไปใกล้ ๆ ในเอเชีย แต่ก็ยังลังเลใจอยู่ สกู๊ปวันนี้เราจิ้มสถานที่ท่องเที่ยวปลายทางมาให้เรียบร้อยครับ กับจุดเช็คอินที่นักเดินทางเคาะกันมาแล้วว่าต้องไปเยือนสักครั้ง แถมบางแห่งมีครั้งแรกแล้วยังติดใจชวนให้มีครั้งที่ 2 ตามมาอีกด้วย โดยทั้ง 5 สถานที่ มาจาก 5 ประเทศ กับสไตล์ทริปที่แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เพราะมีทั้งแนวเครื่องเล่นเอเนอจี้สูง และแนวสโลว์ไลฟ์พักผ่อนร่าง พร้อมกับคำแนะนำเบื้องต้น ว่ามีอะไรให้พบเจอบ้าง รวมไปถึงเวลาเปิด-ปิด และค่าใช้จ่ายเพื่อการเข้าชม เพื่อให้เอาไปแพลนเที่ยวกันต่อได้ครับ
อย่าลืมก่อนเดินทางไปเที่ยวในต่างแดน ‘นินนิน’ แนะนำให้ทำประกันเดินทางต่างประเทศไว้เสมอ เพราะต่อให้เตรียมความพร้อมแค่ไหน หรือแพลนทริปดีเท่าไหร่ก็ตาม เรื่องไม่คาดคิดในการเดินทางเกิดขึ้นได้เสมอ เราเตรียมความพร้อมไว้ก่อนเพื่อไม่ให้ทริปสะดุดได้ ทั้งเรื่องไฟลท์เดินทาง สัมภาระ-ของสำคัญติดตัว และเรื่องสุขภาพ-อุบัติเหตุ ด้วยความคุ้มครองรอบด้าน ในเบี้ยเริ่มต้นเพียง 190 บาทต่อทริป รับประกันโดย MSIG พาร์ทเนอร์ที่ได้มาตรฐานของเราครับ คลิกที่นี่เพื่อเช็คเบี้ยด้วยตัวเอง พร้อมรับสิทธิพิเศษเฉพาะนักเดินทาง ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2566
1. เที่ยวเกาหลี เล่นสกีท้าลมหนาว
ใครที่ชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีมและอยากท้าลมหนาวแบบจัดเต็ม แนะนำทริปสกี ที่จังหวัดคยองกีโด ประเทศเกาหลีใต้ ที่เปิดให้ทั้งมือใหม่และมือเก๋ามาประลองฝีมือกันครับ โดยที่ไม่ไกลออกไปจากกรุงโซลเราก็จะได้เปิดประสบการณ์กันแล้ว ที่นี่มีสกีรีสอร์ตหลายที่ด้วยกัน แต่ละที่ก็จะมีจุดเด่นต่างกัน เช่น จำนวนลาน จำนวนเนิน หรือเซอร์วิสอื่น ๆ เช่น สวนน้ำ สนามกอล์ฟ ฯลฯ ซึ่งสามารถเลือกพิจารณากันได้เลย ที่สำคัญสกีรีสอร์ตที่คยองกีโด ห่างออกไปจากกรุงโซลเพียง 40 นาที - 1 ชั่วโมงเท่านั้นครับ สำหรับใครที่ไม่ถนัดเอ็กซ์ตรีม แต่อยากได้บรรยากาศก็สามารถเข้าไปนั่งกระเช้าชมวิวอย่างเดียวก็ได้นะ
การเตรียมตัวเที่ยวสกี เกาหลี : อุปกรณ์กันหนาวสำหรับอากาศติดลบ เช่น ถุงมือ-ถุงเท้าสกี ฮีทเทค กางเกงและเสื้อกันหนาว เสื้อแจ็คเกตกันน้ำหรือแบบผ้าร่ม ผ้าพันคอ หมวก แว่นตา อย่างไรก็ตามที่รีสอร์ตจะมีอุปกรณ์และชุดสำหรับเล่นสกีต่าง ๆ ไว้ให้เช่าอยู่แล้วครับในกรณีที่เรามีอุปกรณ์ไม่ครบ
วัน-เวลาที่ควรไปสกี : สกีเป็นที่นิยมเล่นในช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม-มีนาคม) โดยมากลานสกีจะเปิดให้เล่นตั้งแต่เช้า เช่น 8 โมงเช้าก็เปิดให้บริการแล้ว ไปจนถึง 4 ทุ่ม - เที่ยงคืนก็มีครับ แต่ก็อาจมีการปรับเวลาเปิด-ปิดตามสภาพอากาศในช่วงนั้นด้วยนะครับ ดังนั้นใกล้ ๆ วันเดินทางอาจต้องมีการเช็คเวลาด้วยครับ
การจองตั๋ว : มีทั้งแบบการจองและชำระเงินล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ โดยสามารถจองได้กับทางรีสอร์ตโดยตรงหรือผ่านเอเจนซี หรือการซื้อที่หน้าลานสกีก็ได้เหมือนกัน
2. เที่ยวญี่ปุ่น ตะลุยเครื่องเล่นหวาดเสียว Universal Studios Japan
เอาใจคนชอบเครื่องเล่น และแฟนภาพยนต์ดัง ๆ ต้องมาเยือนสักครั้งหากไปญี่ปุ่น ปักหมุดไปเลยที่สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน เมืองโอซาก้า ไม่มีผิดหวัง ที่นี่จะมีเครื่องเล่นหวาดเสียว และโซนจำลองมาจากหนังดัง ๆ เหมือนดึงคุณให้เข้าไปอยู่ในซีนเรื่องโปรดได้แบบเป๊ะเว่อร์ อย่าง หนังดัง ๆ เช่น จูราสสิคปาร์ค, สไปเดอร์แมน, แฮรี่พอตเตอร์ ซึ่งที่เป็นไฮไลท์ต้องห้ามพลาดเลยคือ The Wizarding World of Harry Potter ที่มีการตกแต่งได้เหมือนกับในหนังจริง ๆ อาทิ ป่าสน หมู่บ้านเวทมนต์ สถานีรถไฟ ชานชาลาเลขที่ 9 ¾ ใครที่อยากอินสุด ๆ อย่าลืมแวะร้านขายของที่ระลึกมาเป็นพร็อบกันนะครับ ไม้กายสิทธิ์ เสื้อคลุม ฯลฯ และอย่าลืมรอดูโชว์ไฟแสงสีของปราสาทฮอกวอตส์ หรือ Hogwarts™ Magical Night ด้วยน้า ส่วนเครื่องเล่นก็เล็งกันให้ดี ๆ นะครับว่าจะเล่นอะไรบ้าง เพราะว่าคิวเครื่องเล่นที่นี่เลื่องชื่อทีเดียว บางเครื่องรอกันเป็นชั่วโมงเลยทีเดียวครับ
การเตรียมตัวเที่ยว Universal Studios Japan : อันดับแรกเลยคือการซื้อตั๋วล่วงหน้าไปเล้ย และควรไปถึงก่อนเวลาประตูเปิดสักพัก เพื่อจะได้เข้าไปก่อนที่คิวจะแน่น และเตรียมชุดน่ารักคุมธีม (และตามสภาพอากาศ) รวมไปถึงกล้องพร้อมแบตเตอรี่เต็มเปี่ยมสำหรับเก็บภาพความประทับใจ
วัน-เวลาที่ควรไป USJ : สวนสนุกเปิดทั้งปี แต่ก็ต้องชั่งใจช่วงวันเดินทางไม่ให้ชนกับวันหยุดเทศกาลต่าง ๆ เพราะว่าผู้คนจะหนาแน่นเป็นพิเศษ รวมถึงฝนฟ้าอากาศด้วยนะ ส่วนเวลาทำการก็มีการขยับบ้างครับ อย่างช่วงปลายเดือนม.ค. 2566 ก็จะเปิดทำการเวลา 10 โมงเช้า เช็คเวลาเปิด-ปิดที่นี่
การจองตั๋ว : แนะนำว่าซื้อพาสแบบออนไลน์มาเลย สะดวกรวดเร็ว ไม่มีชาร์จค่าธรรมเนียม โดยสามารถซื้อโดยตรงกับสตูดิโอ และกับเอเจนซี่ต่าง ๆ เราจะได้รับเป็น E-ticket พร้อม QR Code ทางอีเมล ก็ใช้สแกนเข้าสวนสนุกได้ทันทีโดยไม่ต้องไปแลกตั๋วครับ พาสเข้า USJ มีหลายแบบครับ หลัก ๆ เลยจะมี
- 1 DAY Studio Pass ใช้ได้ 1 วัน แต่ต้องดูเพิ่มตามวันด้วย แบ่งเป็น แบบ A (วันธรรมดา) B (วันธรรมดา-เสาร์อาทิตย์) C (วันธรรมดา-เสาร์อาทิตย์ ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวและวันปกติ) และ D (ช่วงเทศกาลท่องเที่ยว หยุดยาว) เรทราคาจะต่างกัน เช็ควันกับประเภทบัตรได้ที่นี่
- 1.5 Studio Pass ใช้ได้ 1.5 วันติดกัน โดยที่วันแรกเข้าสวนสนุกได้หลัง 15.00 น.นะ ส่วนวันถัดมาจัดเต็มวันได้เลย
- 2 DAY Studio Pass ใช้ได้ 2 วัน ติดกัน
- Express Pass บัตรเสริมช่วยลดเวลาในการต่อแถวเพื่อเล่นเครื่องเล่นแบบทางด่วน อันนี้เป็นบัตรที่ถือว่าช่วยชีวิตได้เยอะมาก โดยจะมี 2 แบบคือ Express Pass 4 และ 7 ตามจำนวนเครื่องเล่น
3. เที่ยว Tirta Empul Temple บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
ผ่อนคลายกับสถาปัตยกรรมโบราณ และ ธรรมชาติ แนะนำจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางเข้ามาชื่นชมและร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล ที่บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เทอร์ตา เอมปูล วัดที่ตั้งอยู่กลางเกาะบาหลี โดยวัดแห่งนี้สร้างตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมรูปสลักหินโบราณ ประตูวัด และไฮไลท์คือบ่อน้ำพุตรงนี้เป็นน้ำที่ผุดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามความเชื่อของชาวบาหลีแล้วเชื่อว่าการอาบน้ำที่ เทอร์ตา เอมปูล ช่วยชำระจิตใจ ทำให้สุขภาพแข็งแรง ขับไล่สิ่งชั่วร้าย รวมทั้งเสริมสิริมงคล ทำให้มีการประกอบพิธีและการอาบน้ำเพื่อชำระจิตใจที่นี่ สายคอนเท้นต์คอนใจอย่าลืมเก็บภาพมุมฮอตประตูสวย ๆ และอาจแวะตลาดปราบเซียนเพื่อซื้อของฝากกลับมาได้ด้วย เช่น ผ้าพื้นเมือง กระเป๋า ให้เรางัดกลเม็ดต่อรองมาใช้กันเต็มที่ ใครจะเซียนกว่ากันต้องไปลองคร้าบ
การเตรียมตัวเที่ยว : ห้ามใส่กางเกง-กระโปรงขาสั้น ห้ามผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือนเข้าชม ก่อนเข้าวัดจะมีโสร่งให้สวมใส่ก่อน เชื่อว่าการนุ่งโสร่งเป็นการให้เกียรติเทพเจ้า และหากอยากอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็จะมีผ้าสีเขียวให้เปลี่ยนอาบ แต่ควรเตรียมเสื้อผ้าเพื่อมาเปลี่ยนด้วยนะ
วัน-เวลาที่ควรไป : ที่นี่เปิดทุกวัน เวลา 9.00 - 17.00 น.
การจองตั๋ว : สามารถซื้อบัตรเพื่อเข้าชมได้เลยที่หน้าวัด โดยค่าเข้าชมอยู่ที่คนละ 50,000 รูเปีย (ประมาณร้อยกว่าบาทครับ)
4. เที่ยวเมืองเก่าปีนัง ประเทศมาเลเซีย
กับชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่จอร์จทาวน์ – นั่งรถไฟไปปีนังฮิลล์ มาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางสะดวกทีเดียว นั่งรถไฟปล่อยใจไปก็ได้ เพื่อไปดื่มด่ำชีวิตสโลว์ไลฟ์และสตรีทอาร์ตเจ๋ง ๆ ที่ทำคอนเท้นต์ได้ทั้งเมือง ที่นี่มีจุดเด่นที่ตึกอาคารต่าง ๆ สไตล์ชิโนโปรตุกิส (เหมือนภูเก็ตบ้านเรา) และมีการเพ้นท์สี ภาพวาดต่าง ๆ ให้เราเดินเท้าไปแชะภาพได้ตลอดถนน รวมไปถึงการแวะชิมอาหารพื้นเมืองสตรีทฟู้ด อย่าง Assam Laksa น้ำแกงเข้ม ๆ รถชาติจัดจ้านกินกับเส้นคล้าย ๆ ขนมจีน หรือ ไม้เสียบจิ้มจุ้ม LOKLOK ก็แซ่บห้ามพลาด แต่ที่อยากแนะนำ นอกจากการเดินชมเมืองแล้ว สามารถไปชมเมืองจอร์จทาวน์แบบมุมสูงได้จากบนปีนังฮิลล์ ด้วยการเปิดประสบการณ์นั่งรถไฟที่ชันที่สุดในโลก ที่ตั้งอยู่บนความสูงกว่า 800 เมตรจากระดับน้ำทะเล และยังมีเส้นทางธรรมชาติ สวนนก และสวนดอกไม้ให้ได้ชื่นชมด้วยครับ
การเตรียมตัวเที่ยว : กายพร้อม ใจพร้อมก็ไปได้เลย เหมือนเที่ยวในไทย
วัน-เวลาที่ควรไป : ที่นี่เปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งปี จองตั๋วรถไฟหรือเครื่องบินแลนดิ้งแล้วชิลได้ทันที หากต้องการไปปีนังฮิลล์สามารถไปได้ทุกวันเช่นกัน รถรางเปิดให้ใช้บริการเที่ยวแรก 06.30 น. และปิดประมาณ 5 ทุ่มครับ
การจองตั๋ว : หากต้องการไปปีนังฮิลล์ สามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์เลย มีค่ารถรางประมาณ 300 บาทไทยสำหรับไป-กลับ
5. เที่ยวสิงคโปร์ ทริปสบายใจ เช็คอินอุโมงค์ต้นไม้ Fort Canning Park
ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเลยครับ ตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 14 เดิมทีเคยเป็นที่ตั้งของวังของกษัตริย์ด้วย ก่อนที่จะปรับมาเป็นสวนสาธารณะให้คนได้มาพักผ่อน ไฮไลท์คืออุโมงค์ต้นไม้มุมแปลกตา ที่ต้องห้ามพลาดถ่ายมุมเสยสุดชิคมาโพสต์ลงโซเชียล และมีส่วนประวัติศาสตร์ ช่วงสงครามโลก และการแสดงจัดงานกลางแจ้งตลอดทั้งปี
การเตรียมตัวเที่ยว : คอสตูมแน่น ๆ เตรียมท้องไปรับประทานของอร่อย เช็คตั๋วเครื่องบินและที่พักให้ได้ราคาดี๊ดีก็เพียงพอแล้วครับ
วัน-เวลาที่ควรไป : เปิดทำการทุกวัน เวลา 7 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม
การจองตั๋ว : ตัวสวนเข้าชมได้ฟรี ส่วนที่เป็นทัวร์ประวัติศาสตร์ เช่น Battlebox มีค่าเข้าชมครับ ราคาผู้ใหญ่ 20 ดอลลาร์ฯ และเด็ก 7-12 ปี 10 ดอลลาร์ฯ
และขอป้ายยาใครที่จะไปสิงคโปร์ต้นปีนี้ และเป็นแฟนคลับโดราเอมอน อย่าลืมแวะไปเช็คอิน The Doraemon Exhibition Singapore 2022 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์ ความพิเศษคือนี่เป็นนิทรรศการโดราเอมอนที่จัดนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ระยะเวลาจัดแสดงถึง 5 กุมภาพันธ์ 2023 นี้ ราคาบัตรเข้าชมอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ฯ นะคร้าบ
