เลือกประกันสุขภาพเด็กเล็กแบบไหนดี รับมือหน้าฝนนี้

29 สิงหาคม ค.ศ. 2023 โดย
Administrator 2

เลือกประกันสุขภาพเด็กเล็กแบบไหนดี?
รับมือหน้าฝนนี้

เข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการ อากาศเริ่มเปลี่ยนและมีฝนตกบ่อยขึ้น แน่นอนว่าเลี่ยงไม่ได้กับโรคภัยที่มาพร้อมกับฝน และโรคในเด็กที่เริ่มพบมากขึ้นในฤดูกาลนี้ ในฐานะผู้ปกครอง เราต่างทราบกันดีว่าอาการเจ็บป่วยในเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ นั้น ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และหากมีอาการที่ไม่น่าไว้วางใจต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของเด็กเอง ทว่าเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผน เพราะว่าค่าใช้จ่ายสำหรับโรคเฉพาะทางต่าง ๆ อาจเป็นเงินก้อนใหญ่ หรืออาจมีแนวโน้มว่าต้องมีการรักษาซ้ำหลายครั้ง การซื้อประกันภัยเอาไว้รองรับถือว่าเป็นการลงทุนด้านสุขภาพของลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถพิจารณาไว้เพื่อความอุ่นใจมากขึ้นรับหน้าฝนที่กำลังมาถึงนี้

เด็กเล็ก ป่วย ไม่สบาย ประกันเด็ก ประกันสุขภาพ

สกู๊ปสุขภาพดีมีบอกวันนี้จึงขอนำเสนอเกี่ยวกับโรคในเด็กที่มักมาพร้อมหน้าฝน การสังเกตอาการเจ็บป่วยของเด็ก และการประเมินก่อนตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพเด็กเล็กว่าต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง เพื่อให้ผู้ปกครองได้เลือกแพ็คเกจประกันได้ง่ายมากขึ้น

3 โรคยอดฮิต ที่มักพบและแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในเด็ก และผู้ปกครองต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

1. โรคมือเท้าปาก เป็นโรคติดต่อจากการสัมผัสในเด็กที่พบบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ในเด็กเล็ก เนื่องจากเด็กเล็กยังมีข้อจำกัดในการควบคุมตัวเอง หยิบจับสิ่งของต่าง ๆ มักนำเข้าปาก โรคนี้ติดต่อทั้งการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือการหายใจใกล้ชิดกับผู้ป่วย และการสัมผัสทางอ้อมผ่านสิ่งของ มือของผู้เลี้ยงดู หรืออาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เด็กเล็กหรือเด็กที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำก็มักจะรับเชื้อได้ง่าย 

อาการ : โรคนี้ใช้เวลาในการฟักตัวช่วง 3-7 วันหลังจากได้รับเชื้อ และเริ่มแสดงอาการด้วยการเป็นไข้สูง 38-39 องศาเซลเซียส เจ็บคอ อ่อนเพลีย ไม่อยากอาหาร ก่อนที่จะเริ่มมีตุ่มอักเสบ หรือผื่นขึ้นตามลำตัว โดยเฉพาะบริเวณ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และปากทั้งริมฝีปากและภายในปาก

อาการต้องระวัง : เด็กเริ่มหายใจหอบ ชัก ไข้สูง เดินเซ อาเจียน ต้องพบแพทย์ให้ไวที่สุด เพราะว่าเชื้ออาจะเป็นชนิดรุนแรง ที่มีผลให้ก้านสมองอักเสบ หัวใจอักเสบ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

เด็กเล็ก ป่วย ไม่สบาย ประกันเด็ก ประกันสุขภาพ

2. โรค RSV หรือ โรค Respiratory Syncytial Virus เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง เป็นโรคที่พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่เมื่อเป็นในเด็กเล็กโดยเฉพาะที่อายุต่ำกว่า 3 ขวบมีความเสี่ยงต่อระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ โดยโรคนี้จะเป็นมากในช่วงที่มีอากาศชื้น เนียน ๆ มาราวกับเป็นไข้หวัด ติดต่อผ่านสารคัดหลั่งและละอองจากการไอ จามของผู้ป่วย

อาการ : เมื่อติดเชื้อจากผู้ป่วย เชื้อไวรัสนี้จะใช้เวลาประมาณ 5 วันในการฟักตัว และจะปรากฎอาการ ไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล ไม่ต่างจากไข้หวัด แต่จะเริ่มกระทบต่อระบบทางเดินหายใจส่วนล่างทำให้เกิดอาการกล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ 
ปอดอักเสบ ปอดบวม ไอหนักขึ้นจนหอบเหนื่อย และมีเสมหะในลำคอ

อาการต้องระวัง : ไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส หายใจลำบาก หรือหายใจแล้วมีเสียงหวีด ไอ อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้ และปากเริ่มซีดคล้ำ เป็นสัญญาณไม่ดีว่าผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้นเสี่ยงต่อระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและเสียชีวิต

3. โรคไข้เลือดออก โรคติดต่อที่มียุงลายเป็นพาหะ ช่วงฤดูฝนที่มีแหล่งน้ำขังทำให้การแพร่พันธุ์ของยุงที่มีเชื้อเพิ่มมากขึ้น การป่วยจึงเพิ่มมากขึ้นไปด้วย การติดเชื้อไวรัสเด็งกี่นี้ยังไม่มีวัคชีนป้องกัน หรือยาในการรักษาโดยตรง แต่สามารถป้องกันเด็ก ๆ ได้ด้วยการให้นอนในมุ้งครอบป้องกันยุง ทาหรือฉีดป้องกันยุงบริเวณผิวหนัง รวมไปถึงการทำลายแหล่งน้ำขังที่ยุงไปวางไข่

อาการ : หลังจากที่ยุงลายกัดผู้ป่วย และไปกัดต่อที่บุคคลอื่น จะแพร่เชื้อเข้าสู่กระแสเลือดของบุคคลนั้น ๆ โดยจะมีการพัฒนา 3-15 วัน จึงจะปรากฎอาการของโรค โดยมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน 38-41 องศาเซลเซียส และกินยาลดไข้ไม่ค่อยมีผลต่อการรักษา เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ปวดศีรษะรุนแรง ปวดเมื่อยตามตัว และมีผื่นหรือจุดเลือดออกตามตัว หน้าแดง ในระยะเวลา 2-7 วัน

อาการต้องระวัง : ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว มีภาวะเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด หรือเลือดออกในทางเดินอาหาร มีอาการช็อค กระสับกระส่าย ชีพจรเบาและเร็ว มือเท้าเย็น ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง อาจทำให้เสียชีวิตได้ 

เด็กเล็ก ป่วย ไม่สบาย ประกันเด็ก ประกันสุขภาพ

นี่เป็นเพียงโรคฮิต 3 โรคต้น ๆ ที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วเด็ก ๆ ที่ยังมีภูมิต้านทานต่ำ สามารถเจ็บป่วยจากโรคภัยที่มองไม่เห็นได้มากกว่าที่เราจะคาดเดาได้เลยหล่ะ แล้วการเลือกประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงควรเลือกด้วยการคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง ที่จะครอบคลุมและคุ้มค่าที่สุด แบ่งปันเกณฑ์การเลือกที่น่าสนใจดังนี้

1. เลือกความคุ้มครองที่ครอบคลุม ต้องดูรายละเอียดให้ครบด้าน สำหรับแผนประกันสุขภาพสำหรับเด็กหรือประกันสุขภาพสำหรับผู้ใหญ่ก็ตามต้องศึกษาแผนประกันภัยและทุนประกันอย่างละเอียด โดยเลือกแผนที่คุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน อาจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับความคุ้มครอง ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล ค่าห้องผู้ป่วยวิกฤต ฯลฯ เพื่อให้ครอบคลุมตลอดการรักษา ในบางแผนประกันอาจมีประกันเสริมให้ซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้ เช่น เงินชดเชยรายวัน และที่สำคัญเลยอย่าลืมเช็คโรงพยาบาลในเครือว่าเป็นสถานพยาบาลใกล้ ๆ บ้านหรือสะดวกต่อการเดินทางหรือไม่ เพื่อความสะดวกในการส่งตัวเด็กเข้ารับการรักษา

หากต้องการซื้อแผนประกันกัยแบบเร่งด่วนคุ้มครองโรคกวนใจ อย่างโรคที่มาจากยุง (โรคไข้เลือดออก, โรคติดเชื้อไวรัสซิกา, โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี, โรคชิคุนกุนยา, หรือโรคไข้จับสั่นหรือไข้ป่า) โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคมือเท้าปาก แบบซื้อออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง รับประกันโดยกรุงเทพประกันภัย สามารถซื้อได้ที่ https://bit.ly/468n4mG (ทำประกันได้ตั้งแต่เด็กวัยแรกเกิดจนถึงผู้ใหญ่วัย 70 ปี)

2. ดูแผนประกันที่ตรงกับอายุลูกน้อย  แผนประกันภัยสุขภาพมักมีการแบ่งช่วงอายุของผู้เอาประกันภัย เพราะว่าแต่ละช่วงวัยมีความเสี่ยงทางด้านสุขภาพต่างกัน และวัยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วย เบี้ยประกันภัยก็สูงตามไปด้วย แน่นอนว่าเด็กเล็ก หรือประกันสำหรับเด็กเบี้ยประกันสูงทีเดียว เพราะว่าเป็นวัยที่เกิดความเจ็บป่วยได้ง่าย และบ่อยครั้ง แต่ละบริษัทประกันจึงมีการคำนวนเบี้ยเพื่อรองรับความเสี่ยงนี้ อาจมีการแบ่งเป็นวัยทารก ตั้งแต่ 15 วัน, 1 เดือน หรือตามขวบปีอื่น ๆ (แต่ละบริษัทประกันกัย ไม่ได้แบ่งช่วงอายุของผู้เอาประกันภัยเหมือนกัน อย่าลืมอ่านข้อกำหนดตรงนี้) และในบางแผนประกันภัย เพศของเด็กก็มีผลต่อเบี้ยประกันเช่นกัน ฉนั้น ต้องอ่านรายละเอียดและให้ข้อมูลเพื่อเอาประกันภัยที่ถูกต้องเสมอ

เด็กเล็ก ป่วย ไม่สบาย ประกันเด็ก ประกันสุขภาพ

3. อย่าลืมดูข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกัน เช่น ความคุ้มครองไม่ครอบคลุมโรคหรือภาวะใดบ้าง เช่น บางโรคที่ป่วยหรือเป็นมาก่อน ระยะรอคอยก่อนที่ประกันจะให้ความคุ้มครอง ซึ่งโดยมาตรฐานแล้วประกันจะมีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจน ผู้ปกครองควรอ่านอย่างละเอียดเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองในการเคลมประกัน หรือสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อรับคำแนะนำก่อนตัดสินใจซื้อประกันภัย 

4. เลือกแบบมีความรับผิดส่วนแรก เหมาะกับใคร กรณีมีสิทธิรักษาตัวอื่นหรือประกันอื่นอยู่แล้ว เลือกประกันสุขภาพแบบมีความรับผิดส่วนแรกเบี้ยจะถูกกว่าแผนปกติ โดยความรับผิดส่วนแรก หมายถึง การใช้สิทธิที่มี เช่น ประกันแผนอื่น หรือสิทธิประกันสุขภาพอื่น ๆ หรือผู้ปกครองชำระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ให้แก่ทางโรงพยาบาลตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แล้วส่วนต่างที่เหลือจากนั้นประกันภัยจะให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกัน

แต่หากไม่มีสิทธิอื่น ๆ เลย ประกันแบบมีค่าความรับผิดส่วนแรกก็อาจจะต้องพิจารณาโดยละเอียดครับว่ามีค่าเสียหายส่วนแรกเท่าไหร่ ในประกันเด็ก ค่าเสียหายส่วนแรกอาจเริ่มที่หลักหมื่นบาทครับ หากมีความพร้อมรองรับตรงนี้ก็อาจพิจารณาแผนเหล่านี้ก็ได้ เพราะว่าเบี้ยประกันภัยต่อปีจะราคาสบายกระเป๋ามากกว่า

5. ประกันสุขภาพเด็กมักพ่วงกับประกันสุขภาพของผู้ปกครอง อย่างที่แจ้งในตอนแรกว่าประกันภัยสำหรับเด็กมักมีค่าเบี้ยประกันภัยสูง เพราะว่าเด็ก ๆ มีความเสี่ยงสูงในการเจ็บป่วย แผนประกันหลาย ๆ แผน จึงมีเงื่อนไขพ่วงให้ผู้ปกครองทำประกันภัยสุขภาพด้วย เพื่อเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น แต่หากพ่อแม่มีประกันสุขภาพกันอยู่แล้วกับบริษัทหนึ่ง ภายหลังมีบุตรและสนใจทำประกันให้ด้วย อาจเริ่มจากถามบริษัทประกันที่พ่อหรือแม่ทำประกันสุขภาพเอาไว้อยู่แล้วก็ได้ จะได้ลดค่าใช้จ่ายประกันพ่วงของผู้ปกครองลงไป หรือหากไม่สะดวกในเงื่อนไขนี้ บางบริษัทประกันก็มีให้บริการแผนประกันที่ไม่พ่วงกับพ่อแม่เช่นกัน สามารถสอบถามข้อมูลก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

หากสนใจทำประกันสุขภาพสำหรับเด็ก หรือปรึกษาเกี่ยวกับแผนประกันสุขภาพเด็ก สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องความคุ้มครองหรือเงื่อนไขการทำประกันภัย ได้ที่ TT Insurance Broker ช่องทาง Facebook page: TT Insurance Broker, Line official @TTIB, หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 02-248-4848 วันจันทร์-ศุกร์ในเวลาทำการ 08.30-17.00 น.

เด็กเล็ก ป่วย ไม่สบาย ประกันเด็ก ประกันสุขภาพ 
แชร์โพสต์นี้


Added to cart