NIN-NIN HAI มอบกำลังใจให้ผู้ป่วยเบาหวาน ร่วมกับ หน่วยงานพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลศิริราช

28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 โดย
Administrator 2

NIN-NIN HAI มอบกำลังใจให้ผู้ป่วยเบาหวาน ร่วมกับ หน่วยงานพ​ยาบาลสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลศิริราช

          “โครงการทีทีไอบี ประกันดีต่อใจ” หรือ “โครงการนินนินให้ (NIN-NIN HAI)” ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์แก่สังคม ผนึกกำลังในการส่งต่อโอกาสที่ดี อีกทั้งเพื่อพนักงานได้ตระหนักถึงพลังของการ “ให้” รวมทั้งความรู้สึกเข้าอกเข้าใจ (EMPATHY) ต่อความเดือดร้อนของผู้อื่น อันเป็นกุญแจสำคัญในงานบริการลูกค้า 


รับมอบสิ่งของบริจาค

          โดยกิจกรรมครั้งที่ 4 จัดขึ้นในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา คุณสถิติ วงศ์ฝั้น (ผู้จัดการใหญ่) และตัวแทนพนักงานได้เข้าส่งมอบสิ่งของบริจาคให้กับหน่วยพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพ สังกัดงานการพยาบาลปฐมภูมิ (Primary Nursing Care Division) ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช โดยมีตัวแทนเจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพ กลุ่มงานพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพปฐมภูมิ รับมอบสิ่งของบริจาค ได้แก่ เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลด้วยตนเอง พร้อมเข็มตรวจสำรอง อาหารเสริมทางการแพทย์ดัชนีน้ำตาลต่ำสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ชุดทำความสะอาดแผล และกล่องยาปฐมพยาบาลสำหรับบาดแผลทั่วไป เบาะเจล และเบาะลมรังผึ้งสำหรับป้องกันแผลกดทับ ฯลฯ ทั้งนี้ ได้ร่วมรับฟัง แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจการช่วยเหลือผู้ป่วยเบาหวานแบบปฐมภูมิของกลุ่มงานพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งลงพื้นที่ไปถึงบ้านของผู้ป่วยที่มีภาวะรุนแรงจนไม่สามารถเดินทางมาเข้ารับการรักษาได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องเหมาะสม



          กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคเบาหวานในประเทศไทย ข้อมูลจากรายงานสถิติสาธารณสุข ประเทศไทยพบอุบัติการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่มขึ้น 3 แสนคนต่อปี โรคเบาหวานมีส่วนทำให้เสียชีวิต สูงถึง 6.7 ล้านคน หรือเสียชีวิต 1 ราย ในทุกๆ 5 วินาที โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องดูแลต่อเนื่อง อีกทั้งใช้กำลังทรัพย์ค่อนข้างมาก เนื่องจากผู้ป่วยเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขในการรักษาโรคเบาหวานเฉลี่ยสูงถึง 47,596 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ โรคเบาหวานยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ในกลุ่มโรค NCDs (โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง และโรคไตวายเรื้อรัง ฯลฯ โดยปัจจุบันการดูแลผู้ป่วยเบาหวานมุ่งเน้นการให้ความรู้เรื่องโรคเบาหวาน ไม่ใช่แค่เฉพาะแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แต่รวมถึงผู้ป่วยเบาหวานและผู้ดูแลด้วย กลุ่มงานพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลศิริราช จึงมีภารกิจในการเข้าถึงครัวเรือนผู้ป่วยโดยตรง เพื่อดูแลและให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญอย่างทั่วถึง


          ปัจจัยเสี่ยงโรคเบาหวานเกิดจากการมีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน มีภาวะอ้วน เป็นโรคความดันโลหิตสูง ชอบรับประทานอาหารติดรสหวาน ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคเบาหวาน ทำได้โดยการเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย เน้นผัก ผลไม้ และธัญพืชต่างๆ ลดอาหารประเภทหวาน มัน เค็ม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ทำจิตใจให้แจ่มใส นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หากมีอาการเตือนโรคเบาหวานคือ ปัสสาวะบ่อยและมาก กระหายน้ำ หิวน้ำบ่อย กินจุ หิวบ่อยแต่น้ำหนักลด เป็นแผลง่ายและหายยาก คันตามผิวหนัง ตามัว และชาตามปลายมือปลายเท้า ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยต่อไป การป้องกันภาวะแทรกซ้อนสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี พบแพทย์สม่ำเสมอ ใช้ยาตามแพทย์สั่ง หากมีอาการผิดปกติให้แจ้งแพทย์ที่รักษา ห้ามปรับยาเอง สำหรับการตรวจคัดกรองความเสี่ยง แนะนำผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพทุกปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

          สำหรับผู้ที่ประสงค์จะสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลศิริราช เพื่อผู้ป่วยยากไร้ สามารถบริจาคได้ที่ ศิริราชมูลนิธิ โดยผู้บริจาคจะได้รับการยกเว้นภาษีจากกระทรวงการคลัง สามารถนำใบเสร็จรับเงินที่บริจาคให้มูลนิธิ ไปยื่นลดหย่อนภาษีประจำปีได้ หรือหากสนใจเตรียมการรับมือสำหรับค่าใช้จ่ายในกลุ่มโรคร้ายแรงในอนาคต สามารถทักแชท เพื่อปรึกษาเจ้าหน้าที่ประกันสุขภาพของเราในเฟ้นหาแผนประกันที่เหมาะสมได้เลยครับ
          ติดตามการให้ ของ “โครงการทีทีไอบี ประกันดีต่อใจ (นินนินให้)” ในครั้งต่อ ๆ ไปตลอดปี 2567 นี้ได้ที่ช่องทางของบริษัท ทีที อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ Facebook page: TT Insurance Broker, Line official @TTIB และ www.ttib.co.th

ที่มา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและโรงพยาบาลศิริราช, กรมควบคุมโรค, สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย

แชร์โพสต์นี้


Added to cart