เลี่ยงไม่ได้! ทำยังไงเมื่อต้องจอดรถตากแดด
ต้อนรับเมษาหน้าร้อนทะลุปรอท เรียกว่าร้อนกันถ้วนหน้ารวมไปถึงรถยนต์ ที่อาจจะเลี่ยงไม่ได้เพราะต้องขับขี่และจอดตากแดดเอาไว้ระหว่างวันรับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา ซึ่งเป็นผลเสียทั้งต่อตัวรถยนต์ภายนอกและภายใน รวมไปถึงผู้โดยสารด้วยครับ เพราะว่าเจ้ารังสียูวีนี้จะทำลายให้วัสดุ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์เสื่อมสภาพลงได้ไวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสีรถยนต์ที่ถูกแดดเลียให้หมองลง เครื่องยนต์ที่ทำงานหนักขึ้น เบาะหนัง-ขอบยางกระจกหรือที่ปัดน้ำฝนเสื่อมแห้งกรอบ และอื่น ๆ ที่อาจส่งผลเสียมากกว่าที่คิด เช่น ลืมสิ่งของที่มีแบตเตอรี่ไว้ภายในรถแล้วเกิดความร้อนขึ้นจนระเบิดทำให้ไฟลุกไหม้ได้ หรือในผลเสียต่อผู้โดยสายอาจจะทำให้ร้อนจนแทบจะเป็นลมได้เลย เพราะว่ารถสะสมอุณหภูมิเอาไว้เหมือนเตาอบ หรือสารของสิ่งที่อยู่ในห้องโดยสารที่ระเหยเมื่อเจอความร้อน เมื่อเราเข้าไปในรถก็สูดดมสารเหล่านี้เข้าไปโดยอย่างเลี่ยงไม่ได้
เพราะว่ารถยนต์มีการใช้งานอยู่ตลอดจึงอาจเลี่ยงการปะทะหรือจอดท่ามกลางความร้อนไม่ได้ ‘นินนิน’ จึงมาแชร์เคล็ดลับดี ๆ ที่คนรักรถสามารถเตรียมรับมือ ป้องกัน เมื่อต้องจอดรถตากแดดเป็นระยะเวลานาน ๆ ไม่ให้ส่งผลเสียต่อรถและตัวคุณ
1. ม่านบังแดดกันความร้อน เป็นนวัตกรรมที่มีมานานคู่กับรถยนต์และค้นพบว่าช่วยเรื่องการป้องกันความร้อนใน รถยนต์ได้มากขึ้นเพียงใช้แผ่นม่านบังแดดที่ได้มาตรฐานแปะบริเวณกระจกรถทั้งหน้า หลัง และด้านข้างเพื่อสะท้อนหรือดูดซับแสงอาทิตย์รวมไปถึงรังสียูวีไม่ให้เข้ามาเต็มเม็ดเต็มหน่วยในห้องโดยสารจนมีอุณหภูมิสูงเกินไป ซึ่งรถตากแดดสามารถมีอุณหภูมิได้สูงได้ถึง 50 องศา จนทำให้ชิ้นส่วนภายในเช่น คอนโซล พวงมาลัย เบาะ ฯลฯ เสื่อมสภาพได้ไวขึ้น และส่งผลต่อการทำงานของระบบปรับอากาศด้วย ยิ่งห้องโดยสารร้อนมากเท่าไหร่การทำงานของระบบปรับอากาศก็ยิ่งหนักขึ้น และใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น ม่านสามารถแปะได้ทั้งระหว่างรถจอดแบบรอบคัน และขณะรถขับเคลื่อนโดยแปะกระจกข้างไม่ให้ผิวของคนในรถต้องเจอกับแดดแบบเต็ม 100
2. เคลือบสีรถยนต์ เปรียบเสมือนการทาครีมกันแดดให้กับรถยนต์ การเคลือบสีรถเพื่อป้องกันไม่ให้สีรถยนต์ซีดไว ได้ประโยชน์ ทั้งเรื่องความสวยงามให้สีรถเงางามคงสภาพเดิมไว้ได้นานขึ้น และยังช่วยให้ปกป้องรถยนต์ภายนอกได้จากรังสียูวี ซึ่งเคลือบสีมีให้เลือกหลายแบบและหลายเกรด ซึ่งก็จะมีผลต่อความคงทน เช่น เคลือบแก้วมีอายุ 3-5 ปี เคลือบแวกซ์อยู่ได้ 1-2 เดือน การเคลือบทำให้ห้องเครื่อง ตัวถังไม่สะสมอุณหภูมิที่ร้อนเกินไป และมีอีกวิธีที่ที่หลายบ้านอาจเลือกใช้กัน อย่าง ผ้าคลุมรถ แต่ข้อนี้ต้องระวังอย่างยิ่งในการเลือกผ้าคลุมที่มีคุณภาพ วิธีการคลุม และการทำความสะอาดรถไม่ให้มีฝุ่นเกาะก่อนคลุมนะครับ ไม่อย่างนั้น ผ้าคลุมจะกลายเป็นกระดาษทรายขัดทำให้เป็นรอยขนแมวไปทั่วคัน และไม่ควรกางคลุมในที่ลมพัดครับ ร้ายแรงเลย หากเลือกผ้าคลุมไม่ได้คุณภาพอาจร้อนจนละลายติดรถไปเลยก็มี
3. ติดฟิล์มกระจกที่มีคุณภาพ ช่วยป้องกันทั้งรถและคนในห้องโดยสารไม่ให้โดนแดดแผดเผาและรับรังสียูวีเข้ามาปะทะ ซึ่งควรเลือกเฉกความเข้มของฟิล์มที่พอเหมาะ อาจดูที่ ฟิล์ม 60 ช่วยพรางสายตาจากภายนอกได้ประมาณหนึ่ง และป้องกันรังสียูวีได้ดีทีเดียว โดยปกติฟิล์มรถยนต์จะมีอายุประมาณ 5 ปีครับก่อนจะเสื่อมคุณภาพไปจากการต่อสู้กับแสงแดดเหมือนกัน โดยสังเกตได้ว่าฟิล์มจางลง ห้องโดยสารร้อนทั้งที่เปิดแอร์เท่าเดิมก็เป็นสัญญาณว่าควรเปลี่ยนได้แล้ว อย่าลืมเลือกที่มีคุณภาพ หากเห็นแก่ของถูกหรือช่างที่ไม่มีประสบการณ์อาจจะเป็นฟองอากาศ ลอกล่อนได้ง่าย และมีอายุการใช้งานสั้น
4. ระบายความร้อนในห้องโดยสาร ลดกระจก เปิดประตูไล่ความร้อน เป็นการระบายความร้อนที่ทำได้ง่ายครับก็คือการลดกระจกลงสัก 1-2 เซนติเมตรเพื่อระบายอุณหภูมิภายในรถยนต์ระหว่างที่จอดรถตากแดด แต่ก็ต้องดูความเหมาะสมด้วยนะครับว่าจอดที่ไหน หากจอดในที่ไม่คุ้นเคย ตรอก ซอก ซอยเปลี่ยวก็ควรเลี่ยง ไม่งั้นอาจเป็นการเปิดทางให้กับมิจฉาชีพมาโจรกรรมได้ รวมถึงควรมีการติดกันสาดบังตาว่าลดกระจกและป้องกันฝนสาดเข้าไปครับ ส่วนการพับประตูไล่ลมร้อนสัก 4-5 ครั้งทั้งประตูฝั่งคนขับ และประตูฝั่งผู้โดยสารก่อนที่จะขึ้นรถหลังจอดตากแดดเป็นเวลานาน เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารต้องเจอกับอุณภูมิตู้อบที่สะสมไว้ อากาศในช่วงฤดูร้อนเช่นนี้ร่างกายของเราอาจจะเกิดภาวะฮีทสโตรกได้ง่ายมากขึ้นครับ
