น้ำท่วมรถทั้งคัน เตรียมเคลมประกันต้องทำยังไง?

4 กันยายน ค.ศ. 2024 โดย
Administrator 2

น้ำท่วมรถทั้งคัน เตรียมเคลมประกันต้องทำยังไง?

          น่าเห็นใจผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงฤดูน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากครับ เพราะว่าภัยธรรมชาติเหล่านี้ยากที่จะควบคุม และส่งผลร้ายแรงต่อรถยนต์ เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรถกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์จนไม่สามารถสัญจรไปต่อได้ หรือบางคันดังที่เห็นในสื่อมีหลายพื้นที่ ทั้งน้ำท่วมกรุงเทพ และต่างจังหวัด ปริมาณน้ำท่วมสูงมิดทั้งคันรถมีเยอะเลยครับ เกิดเป็นคำถามว่า น้ำท่วมรถทั้งคันแบบนี้จะเคลมประกันได้ไหม แล้วจะต้องเคลมอย่างไร ขั้นตอนยุ่งยากหรือเปล่า? วันนี้ ‘นินนิน’ ขอมาไขข้อสงสัยของเรื่องนี้ให้กับทุกท่านที่กำลังเกิดความกังวลครับ และขอส่งกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกท่านให้ผ่านภัยธรรมชาตินี้ไปด้วยกันนะครับ
น้ำท่วมรถทั้งคัน 
         การเคลมประกันรถยนต์กรณีน้ำท่วม เหมือนการเคลมประกันรถยนต์ตามกระบวนการปกติครับ แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นท่านต้องทราบก่อนว่าประกันรถยนต์ของท่านคุ้มครองเรื่องภัยน้ำท่วมหรือไม่ครับ ไม่ใช่ทุกแผนประกันจะครอบคลุมในเรื่องนี้นะครับ หากเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 หายห่วงไปได้เลย เพราะสามารถเคลมได้แน่นอน แต่ชั้นอื่น ๆ นี่สิครับ ต้องดูในรายละเอียดของแผนประกันว่ามีการระบุเอาไว้หรือไม่ ในเอกสารแนบท้ายด้านหลัง โดยมีจะการเขียนความคุ้มครองน้ำท่วมเอาไว้อย่างชัดเจน หรืออาจอยู่ภายใต้ความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติ ที่มักระบุรายละเอียดว่าคุ้มครองแผ่นดินไหว น้ำท่วม ลูกเห็บ ลมพายุ หากมีข้อความเหล่านี้ วางใจได้ว่าท่านจะได้รับการเยียวยาจากประกันภัยตามทุนประกันภัยที่ท่านทำไว้อย่างแน่นอนครับ แต่หากไม่มีการระบุเอาไว้ ต่อให้อยากเคลมแค่ไหน โอกาสน้อยมากครับที่จะได้รับการดูแลตรงนี้ หากท่านไม่แน่ใจ ติดต่อไปยังบริษัทประกันเพื่อสอบถามรายละเอียดได้เลยครับ 
          หากตรวจสอบแล้วว่าประกันภัยของคุณมีความคุ้มครองภัยจากน้ำท่วม ต้องเตรียมเอกสารการเคลมดังนี้ครับ
          1. เล่มรถ เอกสารเกี่ยวกับตัวรถ
          2. กรมธรรม์ประกันรถยนต์ 
          3. เอกสารของเจ้าของรถ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ ใบขับขี่

เคลมประกันรถกรณีน้ำท่วมรถ
ขั้นการเคลมประกันภัย 
          1. ถ่ายภาพหลักฐานความเสียหาย ขณะเกิดเหตุยิ่งดีเลยครับ หากเป็นไปได้ถ่ายให้เห็นองค์ประกอบของรถ ในกรณีที่ไม่ได้ท่วมทั้งคัน ควรติดป้ายทะเบียนครับ เพื่อใช้ยืนยันได้ว่ารถของเราประสบภัยน้ำท่วมจริง ๆ และก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงอย่างไรบ้าง
          2. ติดต่อบริษัทประกันภัย แล้วแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ชื่อผู้ทำประกัน แจ้งหมายเลขกรมธรรม์ ทะเบียนรถ ยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุ และรายละเอียดเหตุการณ์-ความเสียหาย รวมไปถึงเบอร์ติดต่อกลับที่ชัดเจนครับ 
          3. เจ้าหน้าที่ประเมินความเสียหาย หรือประสานงานด้านความช่วยเหลืออื่น ๆ เช่น รถยก
          4. เลือกศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อม เพื่อทำการประเมินราคาค่าซ่อมรถ
          5. รอการอนุมัติจากบริษัทประกัน
          6. หากเอกสารอนุมัติ สามารถนำรถเข้าซ่อมที่อู่ หรือศูนย์ซ่อมได้เลย

          อย่างไรก็ตามการพิจารณาเรื่องการเคลม และการประกันภัยเป็นไปตามรายละเอียดเงื่อนไขของบริษัทประกัน และดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ มีบางกรณีที่ทางบริษัทประกันภัยอาจพิจารณาไม่จ่ายประกัน เช่น การขับขี่ที่ประมาท ผู้ขับขี่จงใจขับลุยเส้นทางน้ำท่วมสูงจนเกิดเหตุ ทั้งที่มีการเตือนภัย มีป้ายเตือน หรือประกาศเตือนแล้ว ฯลฯ และในกรณีที่รถเกิดความเสียหายทั้งคัน เคลมได้หรือไม่ ได้ครับ โดยจะมีการพิจารณาว่ารถไม่สามารถซ่อมกลับให้เป็นดังเดิมได้ ความเสียหายของรถยนต์มากกว่า 70% จากสภาพเดิม ก็จะได้รับความคุ้มครองตามทุนประกันภัยเลยครับ 
          หากรถของคุณประกันภัยใกล้หมด หรือขาดประกันภัย อย่ารอให้เกิดเหตุไม่คาดคิดครับ อุบัติเหตุหรือภัยความเสี่ยงต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทราบได้ล่วงหน้าเลยครับ การซื้อประกันภัยเป็นการวางแผนรองรับความเสี่ยงเหล่านั้นก่อนที่เหตุการณ์จะมาถึง หากต้องการปรึกษาเรื่องประกันรถยนต์ หรือประกันภัยอื่น ๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยของ TT Insurance Broker ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ช่องทางการติดต่อ Facebook page: TT Insurance Broker, Line official @TTIB, www.ttib.co.th หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 02-248-4848 วันจันทร์-ศุกร์ในเวลาทำการ 08.30-17.00 น. 

#TTIB #น้ำท่วม #ประกันรถยนต์ #TTIBประกันดีต่อใจ #บริการว่องไวใส่ใจคุณ

แชร์โพสต์นี้


Added to cart