เตรียมออกทริป ต้องรู้จักระบบตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติ

3 เมษายน ค.ศ. 2024 โดย
Administrator 2
/

เตรียมออกทริป ต้องรู้จักระบบตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติ

          เตรียมตัวออกทริป! หากใครมี แพลน Road Trip ตะลอนขับรถเที่ยว ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ หรือกลับบ้านต่างจังหวัด ต้องไม่ลืมการตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทางเด็ดขาดนะครับ แม้ว่ารถจะขับอยู่ทุกวัน แต่สมรรถภาพในการเดินทางไกลต้องเตรียมพร้อมแบบคูณ 2 และยิ่งช่วงเทศกาล ศูนย์ซ่อมหรือร้านระหว่างทางอาจจะปิด จึงไม่ใช่เรื่องดีแน่หากรถเกิดมีปัญหาเข้า นี่เลย เช็คลิสต์เช็ครถก่อนออกเดินทาง ที่นินนินเตรียมข้อมูลไว้ให้ทุกคนแล้วครับ ส่วนวันนี้มีเรื่องสำคัญอีกเรื่องอย่างเรื่องการวัดลมยาง และระบบการตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติที่รู้ไว้ช่วยให้เราใช้งานรถได้อย่างเต็มสมรรถภาพ 
TPMS
รีบตรวจเช็คความผิดปกติ เมื่อไฟลมยางขึ้นเตือนหน้ารถ 

          “ระบบตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติ” หรือ “Tire Pressure Monitoring System (TPMS)” คือระบบที่มีหน้าที่ตรวจวัดแรงดันลมยางให้กับรถยนต์ของเราทั้ง 4 ล้อ ช่วยเตือนว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ลมยางอ่อน หรืออุณหภูมิผิดปกติ ส่วนประกอบหลักของระบบมี 2 ส่วน ได้แก่ เซ็นเซอร์ 4 ตัวที่ติดตั้งอยู่กับล้อรถยนต์ และจอภาพแสดงสถานะของลมยางที่ติดตั้งอยู่ที่หน้าปัดรถยนต์เพื่อแจ้งข้อมูลให้กับผู้ขับขี่ 

          TPMS จะเริ่มการทำงานทันทีที่มีการสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยเซนเซอร์จะไปตรวจจับลมยางและอุณหภูมิของแต่ละล้อ สำหรับรถเก๋งหากลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน 23 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หรือมีอุหภูมิสูงมากกว่า 80 องศาเซลเซียส ก็มีไฟแสดงขึ้นที่จอเป็นสัญลักษณ์หน้าตาคล้ายกับเกือกม้า และมีเครื่องหมายตกใจตรงกลางบอกว่าลมยางไม่ปกติ แต่ไม่ต้องตกใจไป สิ่งที่เราต้องทำคือ นำรถยนต์ไปตรวจเช็คแรงดันลมและเติมลมยางให้ได้มาตรฐาน ซึ่งตัวเลขตรงนี้ดูได้ที่คู่มือรถ หรือด้านข้างประตูฝั่งคนขับครับ 

รู้หรือไม่? รถแต่ละประเภทมีแรงดันลมประมาณนี้นะ
          - รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมแรงลมที่ 25 - 30 ปอนด์
          - รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมแรงลมที่ 30 - 35 ปอนด์
          - รถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมแรงลมที่ 35 - 40 ปอนด์
          - รถตู้บรรทุก 7 - 10 คน ควรเติมแรงลมที่ 43 - 55 ปอนด์

          แล้วเราควรเช็คและเติมลมยางถี่แค่ไหน มีคำแนะนำว่าเช็คลมยางอยู่ประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง หากผู้ที่ขับขี่ทางไกลหรือขับบรรทุกสิ่งของก็ควรหมั่นดูสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อเติมลมยางให้เหมาะสมก่อนการขับขี่เสมอ เพราะว่าลมยางที่ไม่สมดุลต่อลักษณะการใช้งานจะส่งผลเสียต่อรถและความปลอดภัยของผู้ขับขี่ได้มากกว่าที่คิดครับ 


ตรวจเช็กลมยางก่อนออกรถ

ลมยางไม่เหมาะสมส่งผลเสียอะไรบ้างนะ?
          - ลมยางอ่อนหรือแข็งเกินทำให้ยางสึกหรอได้ทั้งคู่
          - ลมยางอ่อนเกินไปทำให้ยางสะสมความร้อนมากเกินไป ตอบสนองช้า ขับกินน้ำมัน และยางรับน้ำหนักมากเกินจนสามารถแตกได้
          - ลมยางแข็งเกินไปทำให้สมรรถภาพในการยึดเกาะถนนน้อยลง ไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกจากถนนได้ หน้ายางสึก

          อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีอุปกรณ์วัดแรงดันลมยางอัตโนมัติที่เราสามารถนำมาติดตั้งได้ โดยมีส่วนติดตั้งยางรถ แล้วตัวอุปกรณ์จะอ่านค่าแรงดันลมได้แบบ real time และส่งสัญญาณมาที่จอ (ในห้องโดยสาร) ให้มอนิเตอร์ได้ว่าตอนนี้ค่าลมยางเป็นอย่างไร โดยมีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ฟังก์ชั่นคือ สามารถบอกค่า PSI และอุณหภูมิได้ บางรุ่นสามารถเตือนด้วยเสียงได้ บอกสถานะว่าลมยางแข็ง-อ่อน รั่วซึม หรือร้อนเกินไปได้ครับ ควรเลือกยี่ห้อที่มีรับประกัน 1-3 ปีครับ
          ขอให้ทุกเส้นทางของทุกท่านปลอดภัยเสมอ ส่วนใครที่มองหาประกันรถยนต์ราคาดี มีคุณภาพและโปรโมชั่นพิเศษ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยรถยนต์ของ TT Insurance Broker ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ช่องทางการติดต่อ Facebook page: TT Insurance Broker, Line official @TTIB, www.ttib.co.th หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 02-248-4848 วันจันทร์-ศุกร์ในเวลาทำการ 08.30-17.00 น. แจ้งยี่ห้อ รุ่น ปีรถของท่านเพื่อประเมินแผนที่เหมาะสมได้เลย


แชร์โพสต์นี้


Added to cart