ปีใหม่ปลอดภัย เช็คลิสต์เช็ครถก่อนออกเดินทาง

24 ธันวาคม ค.ศ. 2024 โดย
Administrator 2

ปีใหม่ปลอดภัย เช็คลิสต์เช็ครถก่อนออกเดินทาง

          เหลืออีกไม่กี่อึดใจ เราก็จะส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568 กันแล้วคร้าบ เชื่อว่าช่วงวันหยุดยาวนี้ หลาย ๆ อาจถือโอกาสเดินทางไปพักผ่อน ชาร์จแบตก่อนจะเริ่มปีข้างหน้าด้วยพลังอันเต็มเปี่ยม สำหรับใครที่มีแพลนขับรถไปยังจุดหมายปลายทางในประเทศ สกู๊ปสาระน่ารู้นี้เป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมตัวของคุณมาก ๆ เลยครับ เพราะว่า ‘นินนิน’ นำเช็คลิสต์เพื่อเช็ครถก่อนออกเดินทางให้ปีใหม่นี้ปลอดภัยสำหรับคุณและผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันทุกท่านครับ 
          TTIB เราส่งเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็ต้องมีความอุ่นใจไว้ก่อน ทั้งเช็ครถ เช็คเส้นทาง เช็คความพร้อมคนขับขี่ อย่าลืมเช็ค พ.ร.บ. และประกันรถยนต์ของคุณด้วยนะครับ หากขาดอยู่อย่าลืมต่อหรือทำประกันให้ครอบคลุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ขณะที่เราขับขี่ครับ สนใจประกันรถยนต์พร้อมโปรลับจาก TTIB ทักหาแอดมินเลย
          เช็คลิสต์ความพร้อมของรถยนต์ก่อนขับขี่ทางไกล มีหลัก ๆ 10 เรื่องสำคัญด้วยกันครับ โดยมีรายละเอียดดังนี้ 



          1. ตรวจเช็คแบตเตอรี่ อันดับแรกต้องดูก่อนว่าแบตใกล้หมดอายุใช้งานหรือยัง โดยทั่วไปแล้วแบตมีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี หากใกล้ ๆ หมดแล้วอาจเปลี่ยนก่อนเดินทางไกลเพื่อความชัวร์ครับ แบตเป็นชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ หากไม่ดูแลแบตเตอรี่ให้พร้อมเกรงว่าจะไปไม่ถึงปลายทางนะ เพราะเจ้าแบตเตอรี่มีหน้าที่ป้อนกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถยนต์เพื่อให้ทำงานได้ตามปกติ ทั้ง มอเตอร์สตาร์ท ระบบไฟ ระบบจุดระเบิด เหล่านี้ต้องอาศัยแบตเตอรี่ทั้งหมดเลยครับ โดยแบตมี 3 แบบ คือ แบบแห้ง แบบน้ำ และแบบกึ่งแห้ง สำหรับแบตเตอรี่แบบน้ำจะต้องมีการเติมน้ำกลั่นไม่ให้ขาด และดูแลว่าแบตอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ โดยขั้วและฉนวนแบตต้องต่อแน่น ไม่มีขี้เกลือเกาะ หากมีก็เช็ดทำความสะอาด สังเกตว่าแบตบวมหรือไม่ด้วยครับ ถ้าแบตดี ก็สตาร์ทติดดีขับขี่สบายเลยครับ



          2.ตรวจเช็คช่วงล่าง จริง ๆ แล้วเป็นจุดที่ต้องหมั่นดูแล ตรวจเช็คอยู่เสมอนะครับ โดยที่สามารถสังเกตได้เบื้องต้นด้วยตนเองว่ารถขับตรงหรือไม่เมื่อปล่อยพองมาลัยสักครู่หนึ่ง หรือ เมื่อเลี้ยวหรือขับทางขรุขระแล้วมีเสียงกุกกักจากช่วงล่าง หรือพวงมาลัยสั่นหรือไม่ หากมีถือว่าเป็นความผิดปกตินะครับ โดยที่ความผิดปกติของช่วงล่างจะส่งผลต่อการทรงตัวของรถยนต์ขณะขับขี่ครับ หากมีพบเสียงกุกกัก พวงมาลัยสั่นต้องนำรถไปให้ผู้เชี่ยวชาญเช็คโดยละเอียดและรับการซ่อมดูแลต่อไปนะครับ 
          3.ตรวจเช็คล้อรถและยาง ล้อยางทั้ง 4 ล้อเป็นส่วนสำคัญที่ต้องพร้อมใช้งานเสมอ ยางรถมีอายุการใช้งานโดยประมาณไม่เกิน 50,000 กิโลเมตร และมีคำแนะนำว่าควรเปลี่ยนยางทุก ๆ 3.5 ปี ไม่ควรเกิน 5 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับระยะทางและการขับขี่ด้วยครับ ล้อรถที่พร้อมใช้งานต้องมีความดันที่เหมาะสม ไม่มีรอยรั่วแตกปริ มีดอกยางเพียงพอ ตัวล้อไม่บิดเบี้ยว หากมีอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่สมบูรณ์ต้องรับการดูแลก่อนเดินทางไกลนะครับ เช่น ต้องเช็คลมยางว่ามีปริมาณที่พอดี มีความดันที่เหมาะสมเท่า ๆ กันตามปริมาณที่คู่มือประจำรถแต่ละคันแนะนำ ปะยางหากมีรอยรั่ว หรือเปลี่ยนยางกรณีที่มีรอยแตกจำนวนมากและดอกยางเหลือน้อย ซึ่งส่งผลให้การขับขี่ไม่ปลอดภัย และควรเตรียมยางอะไหล่ (ไม่เสื่อมสภาพ และมีลมยาง) และแม่แรงพร้อมใช้งานเผื่อกรณีฉุกเฉินติดรถด้วยนะคร้าบ

 

          4.ตรวจเช็คน้ำมันเครื่องและของเหลวสำคัญ หากน้ำมันเครื่องแห้งสนิทจะทำให้เครื่องยนต์และรถยนต์พังได้ เพราะว่าน้ำมันเครื่องเป็นตัวหล่อลื่นให้เครื่องยนต์ทำงาน เราควรเช็คให้ระดับของน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีด F หรือ L หรือ Max กับ Min ด้วยการตรวจวัดด้วยก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องว่าแถบน้ำมันเครื่องติดอยู่ระหว่างขีดข้างต้นหรือไม่ หากอยู่ในระดับที่เหมาะสมก็อาจจะมีพกน้ำมันเครื่องสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน แต่หากเริ่มอยู่ในระดับต่ำ ควรเติมก่อนออกเดินทาง นอกจากนั้นควรตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำยาหล่อเย็น หรือแม้แต่ น้ำฉีดกระจกหน้ารถให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเช่นกันเพื่อให้การทำงานของรถยนต์เต็มประสิทธิภาพระหว่างการขับขี่ 
          5.ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง ไฟส่องสว่างจากรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญในการใช้เพื่อให้สัญญาณแก่รถคันอื่น ๆ หรือการขับในที่แสงน้อย เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่จึงต้องตรวจเช็คให้ไฟทุกดวง ทั้งไฟหน้า (ไฟสูงและต่ำ) ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง ไฟฉุกเฉิน ฯลฯ ว่าทำงานตามปกติหรือไม่ หากมีหลอดที่หรี่ ติดๆ ดับๆ หรือหลอดไฟขาด ควรให้ช่างเปลี่ยนเป็นไฟดวงใหม่แทนก่อนเดินทาง 
          6.ตรวจเช็คหม้อน้ำ หม้อน้ำรถยนต์มีหน้าที่สำคัญในการช่วยระบายความร้อนส่วนเกินจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ หากเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีทเพราะหม้อน้ำมีความผิดปกติก็อาจจะส่งผลให้รถยนต์ดับไม่สามารถขับต่อไปถึงปลายทางได้เลยครับ เพราะฉะนั้นต้องมีการตรวจเช็คไม่ให้หม้อน้ำแห้ง ด้วยการเติมน้ำยาหล่อเย็นในระดับที่เหมาะสม ระหว่าง Max กับ Min และห้ามเติมน้ำเต็มหม้อ เพราะเมื่อมีความร้อนอาจะเกิดแรงดันทำให้น้ำดันออกจากหม้อน้ำจนหมด และห้ามเติมน้ำเปล่า เพราะจะสร้างความเสียหายต่อหม้อได้ นอจากนั้นอาจต้องเช็คสภาพของท่อ ฝา และตัวหม้อน้ำไม่ให้ชำรุดรั่วซึม โดยสังเกตว่าน้ำหมดไวหรือไม่ มีรอยรั่วซึมหรือเปล่า หากไม่แน่ใจให้นำไปให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบให้ก่อนออกเดินทาง 
          7.ตรวจเช็คระบบความปลอดภัยและกล้อง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารต้องมีการเช็คอุปกรณ์ safety อย่างเข็มขัดนิรภัย ว่าไม่หย่อน สามารถรัดและกระตุกเมื่อมีการกระชากได้ เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารปลอดภัยยามเกิดอุบัติเหตุ ส่วนการทำงานของถุงลมนิรภัยควรให้ช่างผู้ชำนาญการตรวจเช็คให้ เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์เช็คผ่านระบบอิเล็คทรอนิคส์แบบเฉพาะทาง แต่หากมีสัญญาณเตือนขึ้นมาที่หน้าปัด อาจต้องนำไปให้ศูนย์ตรวจสอบให้ทันที เพราะอาจมีความผิดปกติของระบบเซ็นเซอร์หรือระบบจุดระเบิด หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ไม่ส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร นอกจากนั้นควรเช็คการทำงานของกล้องหน้ารถว่ามีความจำเพียงพอหรือไม่ การตั้งค่าบันทึกภาพมีความคมชัด เพื่อความอุ่นใจหากเกิดเหตุฉุกเฉินไม่คาดคิดต่าง ๆ บนท้องถนน 




          8.ตรวจเช็คปัดน้ำฝน ระบบฉีดน้ำฝน เช็คว่าสามารถปัดน้ำที่หน้ากระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ทิ้งคราบไว้บนกระจก โดยใบปัดน้ำฝนต้องไม่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพเพื่อช่วยให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจน หากยางเสื่อมก็สามารถซื้อใบพัดมาเปลี่ยนได้ด้วยตนเองตามคู่มือของรถ ส่วนระบบฉีดน้ำให้สังเกตว่าสามารถพ่นน้ำได้ทั้ง 2 ข้าง ไม่อุดตัน หากมีความผิดปกติอาจลองเช็คว่าน้ำในถังพักมีปริมาณเพียงพอไหม หรือถังมีความสะอาด-ไม่มีตะไคร่ และไม่ชำรุด หากน้ำไม่พ่นออกตามปกติ อาจมีจุดเสียอื่น ๆ ที่มอเตอร์ฉีดน้ำ ปลั๊ก หรือสายยางที่อุดตัน และต้องมีการเปลี่ยนวัสดุชิ้นส่วนที่ชำรุดนั้น ๆ 



          9.ตรวจเช็คชุดเครื่องมือประจำรถ ควรมีการเตรียมเครื่องมือประจำรถติดรถไว้อยู่เสมอเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพื่อการซ่อมแซมเบื้องต้นช่วยให้เราสามารถขับขี่ต่อไปได้ เช่น ชุดเครื่องมือที่มี ประแจ ไขควง ฯลฯ ยางอะไหล่ แม่แรง ชุดเครื่องมือในการถอดล้อ ที่เติมลมฉุกเฉิน สายพ่วงแบต สายลากรถ ไฟฉาย ถังดับเพลิงพกพา ค้อนทุบกระจก


          10.ตรวจเช็คเอกสารสำคัญของรถ และประกันรถยนต์ เอกสารประจำตัวผู้ขับขี่อย่างใบขับขี่ต้องมีการพกติดตัวเสมอ รวมไปถึงเอกสารสำคัญของรถ อย่าง พรบ. สำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ เพื่อความคุ้มครองกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ และสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (หน้าที่มีแสดงชื่อเจ้าของรถยนต์และหน้าที่ต่อภาษีล่าสุด) เพื่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ รวมถึงควรมีคู่มือรถยนต์เอาไว้เพื่อประกอบการเช็ครถ หรือซ่อมรถยนต์ในเวลาฉุกเฉินครับ  
          เช็คครบทุกอย่างเบื้องต้นประมาณนี้ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ท่องเที่ยว กลับภูมิลำเนาแน่นอนคร้าบ และที่สำคัญที่สุดอย่าลืมเช็คความพร้อมของผู้ขับขี่ ไม่ง่วง ไม่ดื่มขณะขับขี่นะครับ นินนินขอส่งต่อความห่วงใยตลอดปีใหม่ให้ขับขี่ปลอดภัยถึงปลายทางกันทุกคนครับ 

#ประกันรถยนต์ #ปีใหม่ #TTIBประกันดีต่อใจ #บริการว่องไวใส่ใจคุณ 

ที่มา : 
- https://www.cleanipedia.com/th 
- https://www.autospinn.com/2019/04/8-checking-your-car-before-a-long-drive-55968 
- https://www.yukonlubricants.com/10-things-you-should-know-checking-car/ 
- https://www.axa.co.th/8-Lists-to-Check 
- https://www.turbo.co.th/article/knowledge-car

แชร์โพสต์นี้


Added to cart